15.1.08

S K A N

From : www.natui.com.au

“ชื่อบอมบ์ครับ ชื่อจริงชื่อ สกัณห์ อายุรพงค์์ ์”ผมอาจจะไม่ต้องการความมั่นคง แต่ผมต้องการความมั่นใจ มั่นใจว่าชีวิตนี้ต้องสนุกแน่ๆ และการเรียนรู้จากชีวิตในซิดนีย์"



" มีผู้กำกับหนังคนนึงที่รู้จักกันเค้าบอกผมเสมอว่า การใช้ชีวิตก็เปนศิลปะอย่างหนึ่ง แรกๆ ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจ "

นี่คือบทสัมภาษณ์ชายฉกรรจ์วัย 26 ท่าทางไม่น่าไว้วางใจ ดูเผินๆอาจจะดูเปนคนขี้อาย เงียบๆไม่ค่อยพูด แต่อย่าได้หลงเชื่อหน้านิ่งๆ ของมันเป็นอันขาดมิฉะนั้น คุณอาจจะต้องนั่งปวดหัวไปตลอดคืน ไม่เชื่อถามชาวร้านชาติไทยในคืนวันปีใหม่ได้ แต่เชื่อเหลือเกินว่าทุกท่านคงเคยผ่านตากับงานของเค้า โปสเตอร์หนังไทยและเทศหลายเรื่องเป็นฝีมือของมัน ผู้ที่ผ่านการทำงานมาสารพัดตั้งแต่เป็นอาจารย์สอนมหาวิทยาลัย, ผู้กำกับ MV, ครีเอทีฟ, ออกแบบโปสเตอร์หนัง ยัน เช็ดขี้ในส้วม!

- แค่ชื่อมันก็ประหลาดแล้ว
ชื่อบอมบ์ครับ ชื่อจริงชื่อ สกัณห์ อายุรพงค์ มีคนถามเยอะมากว่าชื่อแปลว่าอะไร เคยถามแม่ ๆ บอกว่าแปลว่า "คนอันเปนที่รัก" แต่ อ.สอนภาษาไทยที่โรงเรียนบอกว่าแปลว่า ดำดี!
เป็นคนชอบศิลปะ แต่ก็สนใจในเรื่องวิทยาศาสตร์ เพราะมีแม่เป็น อ.สอนฟิสิกส์ ชอบวาดรูปจะมีดินสอ กับสมุดสเก๊ตช์ติดตัวตลอด ชอบอ่านหนังสือ ชอบดูหนัง ฟังเพลง มาตั่งแต่เด็กๆ ยามว่างก็ทำหนังสั้น ผลาญเงินเดือนตัวเองเล่น



- หนังไทยของเรา เบียร์ไทยของเรา
เรียนจบจากคณะศิลปกรรม ม.กรุงเทพ สาขาออกแบบนิเทศศิลป์ ประมาณ 5 ปีมาแล้ว งานแรกที่ผมทำหลังจากเรียนจบมา 1 เดือน คือเปนผู้กำกับมิวสิควีดิโอ ให้วง The Olarn Project เอาเข้าจริงๆ ก็ทำทุกตำแหน่งที่มี เพราะไม่มีตังค์ไปจ้างคนอื่น สนุกมากชวนเพื่อนๆ มาทำด้วยกัน หนังสือพิมพ์วิจารณ์ว่างานห่วยแตก เหมือนเด็กจบใหม่ทำ .....อ้าวก็จบใหม่จริงๆ นี่หว่า

หลังจากนั้นระเห็ดเข้ามาอยู่วงการหนังไทย เปน Creative บริษัทโปรโมทหนังไทยแห่งหนึ่ง ก็มีหน้าที่คอยคิดการโฆษณาให้หนังไทย กับเล่นน้ำเต้า ปู ปลาเปนเพื่อนเจ้านาย เรื่องแรกที่ได้ทำคือแฟนฉัน ทำอยู่ปีนึง ทำงานยังกับควาย ตี 3-4 ลูกค้ายังโทรมาสั่งงาน ก็รู้สึกว่าถ้าทำต่อไป เส้นเลือดในสมองอาจแตกได้ กำลังจะลาออก

พอดีทาง บ.ไฟว์สตาร์โปรดักชั่น ซึ่งตอนนั้นเปนลูกค้าอยู่ ชวนมาทำงาน เค้าบอกจะเปิดบริษัทให้ ก็ใจง่าย ก็เลยมีบริษัทเปนของตัวเองกับเพื่อนๆ ที่ลาออกมาด้วยกันอีก 4 คนชื่อ บ.Stadio ที่นี่เริ่มอัพเกรดตัวเองเป็น Design Director หลักๆเลยก็คือวางแผนการโปรโมทหนังไทยและเทศ ออกแบบโปสเตอร์ ตัดต่อตัวอย่าง สปอตทีวีวิทยุ จนถึงคอยอ่านบทหนังที่น่าสนใจแล้วไปเสนอกับทางไฟว์สตาร์

งานโปสเตอร์ที่ผ่านมาก็เช่น หมานคร ลองของ คำพิพากษาของมหาสมุทธ เปนชู้กับผี หอแต๋วแตก พลอย ฯลฯ แล้วก็จะมีในส่วนกำกับมิวสิควีดิโอ พวกเพลงประกอบหนังต่างๆ ทำรายการสกุ๊ปเบื้องหลังหนัง อ่านสปอตโฆษณา

แล้วก็จะมีการทำโปรโมทให้กับหนังต่างประเทศของค่ายอื่นๆ เช่น WPM . M picture บางเรื่องก็ต้องมาทำโปสเตอร์ใหม่ให้เท่ากับการตลาดของเมืองไทย ตั้งชื่อไทยให้กับหนังฝรั่ง หนังเกาหลี
เคยไปพากษ์ลองหนังด้วยนะ เรื่อง Invisible waves ตอนพากษ์เกร็งมาก อยู่ในห้องอัดคน มีผู้กำกับยืนคุมอยู่หน้ากระจกโคตรกดดัน ทำอารมณ์ไม่ได้เลย เค้าเลยไม่เอา

- นักเรียนนอก มาแล้วจ้า

ตัวผมจะมีเครื่องวัดความสนุกติดอยู่ เราเริ่มรู้สึกไม่ท้าทายกับงานที่ทำ แล้วการบริหารบริษัทมันมีเรื่องตัวเลขเข้ามาเกี่ยวข้อง เราปวดหัว มันเหนื่อยนะเวลาไปกองถ่ายแล้วต้องคุมคน30-40คน แล้วมาคิดว่าเราอายุยังไม่มาก ยังน่าจะออกไปค้นหาอะไรได้อีก อยากเรียนรู้กับความรู้สึกหลายๆแบบ อยากจบนอกพูดไทยไม่ซัด(555) ก็เลยลาออกจากบริษัทตัวเองมาที่นี่

โดยตอนแรกยังไม่มีแพลนอะไรแค่ลงเรียนภาษาไว้
มาถึงซิดนี่ย์ 1 วันก่อนที่พายุเข้า เรือเกยตื้นที่นิวคาสเซิล เพื่อนบอก ตัวซวยมาเยือนแล้ว ประเทศเค้าอยู่กันตั้งนานไม่มีพายุ หนาวชิบหาย ใช้ชีวิตอย่างอดสูอยู่เป็นเดือน กินแต่แครอทกับหัวหอมเพราะมันถูก!
ไปสมัครงานที่แรกในซิดนีย์เป็นบริษัทตัดต่อ กล้าหาญมากภาษาก็พูดไม่ค่อยเปน ใส่สูทไปอย่างเท่ กะทำตัดต่อเต็มที่ แต่เค้าบอกว่าคนตัดตต่อเต็ม มีว่างอยู่ตำแหน่งเดียวคือ Cleaner จะทำมั้ย ผมตอบทำครับ รีบถอดสูทออกแทบไม่ทัน

เปนช่วงเวลาครั้งหนึ่งในชีวิตที่ใกล้ชิดกับขี้คนอื่น อยู่เมืองไทยใช้เครื่อง G5 อยู่เมืองนอกใช้เครื่องดูดฝุ่น ทำอยู่เดือนนึง ก็ลาออกเพราะมีอยู่วันนึงเลิกงานประมาณเกือบ ๆ 5ทุ่ม นั่งรอรถเมล์แถวมาสคอต ป้ายรถก็ไม่มีไฟเปลี่ยวมาก โดนแก๊งวัยรุ่นฝรั่งมาไถตังค์ เดชะบุญด้วยความที่มีหน้าตาซื่อบื้อเลยเอาชีวิตรอดมาได้
เอาชีวิตมาเสี่ยงแท้ๆ

หลังจากนั้นเงินทองที่ติดตัวมาก็ร่อยหรอ เกือบจะโดนจับเพราะขโมยกระดาษทิชชู่ในห้องน้ำห้างเพื่อเอามาใช้ที่บ้าน ต่อมาได้งานร้านพิซซ่า แต่เวลาใครถามว่าทำอะไร ก็จะบอกว่าทำงานเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม คือถ้าขยะมันเต็มก็ยกไปทิ้ง จานสกปรกก็เอาไปล้าง โดนเจ้าของร้านที่เป็นฝรั่งด่าทุกวันไม่รู้มันเป็นอะไร วันๆ ได้กินเศษพิซซ่าที่เหลือจากลูกค้า มันไม่ให้กินอะไร รู้สึกแย่ยิ่งกว่ารู้ว่า สมัคร จะเปนนายกซะอีก



- รสชาติไทยแท้เหมือนแม่ทำให้กิน

มีอยู่วันนึงนั่งเรียนอยู่มีแมสเสจลึกลับส่งมาว่าให้โทรกลับหาน้าตุ๋ยร้านชาติไทยด่วน ก็เลยโทรไปหา น้าตุ๋ยบอกว่าอยากให้มาทำโฆษณา กับออกแบบเมนูร้านชาติไทยที่กำลังจะเปิดใหม่หน่อย เย็นวันนั้นก็ลาออกจากร้านพิซซ่าเลย
ก็ทำงานเป็นกราฟฟิก ดีไซน์ ออกแบบเมนู กราฟฟิกต่างๆในร้าน ให้น้าตุ๋ย จนถึงทุกวันนี้ก็ 5 เดือนแล้ว ดีใจมาก

สิ่งหนึ่งที่ผมสังเกตในชีวิตคือ ผมจะได้เจอและได้ทำงานกับคนดีๆ เสมอ คือมันไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการที่เราได้อยู่กับคนที่มีความคิดดีๆ สิ่งแวดล้อมดีๆ ผมก็เนียนกินข้าวฟรีทุกวัน จนน้าตุ๋ยจับได้ว่าไอ้นี่ตลกแ-กนี่หว่า นั่งทำกราฟฟิกอยู่บนร้านชั้น 2 วันดีคืนดีก็จะมีโทรศัพท์ลึกลับ ( อีกแล้ว ) ให้ลงมาช่วยทำน้ำปั่น ล้างแก้ว ค้นหาจิตวิญญาณในฟองน้ำยาล้างจาน เราเพิ่งค้นพบว่างานทำน้ำปั่น มันโคตรท้าทายเลย สนุกกว่าประชุมกับพวกใส่สูทเยอะ ยิ่งเวลาเห็นใบออเด้อร์ยาวเป็นหางว่าวจะรู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษ เหงื่อออกตูด จำสูตรไม่ได้ปั่นผิดปั่นถูก บางทีลืมใส่น้ำแข็งด้วยซ้ำ รับประกันขี้แตกทุกคน



- เรียนหนังสือหนังหา

นอกเหนือจากเรื่องงานก็คงเปนเรื่องเรียน เพราะลงเรียน Film ที่ Sydney film school ก็รอโรงเรียนเปิดเดือนกุมภาพันธ์ครับ ไม่ได้ตั้งใจจะมาเรียน บังเอิญวันหนึ่งไปเดินดูงานออกงานเกี่ยวกับการศึกษา แล้วไปเจอบู๊ทของโรงเรียนนี้ รู้สึกว่ามีความคิดในเรื่องหนังคล้ายๆกัน เลยไปขอรายละเอียดและแนะนำตัวว่าเราทำโน่นทำนี่มา ตอนแรกๆทางโรงเรียนก็ให้งานกราฟฟิก ออกแบบ โบชัวร์ กับ Certificate ตอนหลังก็เลยตัดสินใจลงเรียนซะเลย
- สิ่งที่ข้าพเจ้าได้เรียนรู้เมื่ออายุ 26 ในต่างประเทศ

มีคนถามผมเสมอว่ามาที่นี่ทำไมงานที่เมืองไทยก็มีความมั่งคงอยู่แล้ว ผมอาจจะไม่ต้องการความมั่นคง แต่ผมต้องการความมั่นใจ มั่นใจว่าชีวิตนี้ต้องสนุกแน่ๆ และการเรียนรู้จากชีวิตในซิดนีย์คือ นามบัตรใช้แทนกระดาษทิชชู่ไม่ได้ มันบาดตูด ทางที่ดีควรตรวจดูว่าในห้องน้ำมีทิชชู่เพียงพอหรือไม่ ถ้าไม่ทันจริงๆแนะนำให้ใช้กระดาษจากหนังสือแจกฟรีจะดีกว่า นุ่มกว่า

" มีผู้กำกับหนังคนนึงที่รู้จักกันเค้าบอกผมเสมอว่า การใช้ชีวิตก็เปนศิลปะอย่างหนึ่ง ผมเชื่อ ผมหมายถึง ผมเชื่อเค้าอย่างสนิทใจ "

6.1.08

A Tribute to Paul Rand

: Here’s a nice little short film about Paul Rand (1914-1996), the brilliant graphic designer most famous for designing logos for IBM, UPS, and other major corporations:


Trampoline Typography

: zZz is playing: Grip
// A music video featuring “trampoline gymnasts simulating typical video effects.” Filmed in one take.